03 November 2010

คิด

เวลาผมออกจากบ้านไปปากซอย บางครั้งก็จะนั่งรถสองแถวไปครับ ค่าโดยสารราคา 6 บาท อ่าว แล้วมันเกี่ยวกับหัวข้อของเรื่องนี่ยังไงเนี่ย?


6 บาท เป็นราคาที่จ่ายยากจริงๆ ครับ เพราะโอกาสที่จะได้รับเงินทอนนั้นมีสูงมาก! ซึ่งมันมักจะเป็นเหรียญบาทซะด้วยสิ โดยส่วนตัวแล้วก็ไม่ชอบพกเหรียญ ยิ่งจ่ายยากทำให้ผมต้องคิดมากครับ


ก่อนออกจากบ้านก็จะต้องดูเหรียญในกระเป๋าก่อนเสมอครับ ว่าพอดีรึเปล่า ถ้าไม่พอก็ต้องไปควักจากในกระปุกมา


ถ้าวันไหนลืมนับก่อนออกจากบ้าน ก็ต้องดูว่าในกระเป๋ามีเหรียญหรือธนบัตรอะไรที่จะจ่ายแล้วได้เหรียญทอนน้อยที่สุด


แล้วโดยปกติคนที่ไม่ชอบพกเหรียญอย่างผม ก็มักจะชอบจ่ายที่ให้ได้เงินทอนมาเป็นธนบัตร หรืออย่างน้อยที่สุด ก็ให้เป็นเหรียญ 10 หรือ 5 บาท ดังนั้นผมเลยชอบจ่ายเป็นเศษครับ เช่น ให้ไป 20 + 1 บาท เพื่อให้ได้เงินทอน 10 + 5 บาท อย่างนี้ เวลาเอาเหรียญไปใช้ต่อจะได้ง่ายขึ้น


พอคิดแล้วว่าจะจ่ายไปเป็นจำนวนเงินเท่าไหร่ แล้วควรจะได้ทอนมาเท่าไหร่ ก็ต้องดูตามช่วงเวลาอีกครับ ว่าจำนวนที่เราจะจ่ายไปนั้นเหมาะกับช่วงเวลานั้นหรือไม่? คงงงล่ะสิ ว่าเกี่ยวกันยังไง


นั่นคือ ถ้าเป็นกลางวัน เค้าก็สามารถที่จะแยกแยะเหรียญ หรือธนบัตรได้เร็วกว่า เพราะแสงสว่างมากกว่า และแน่นอน ทำให้กระบอนการจ่ายเงินทั้งหมดเร็วขึ้นด้วย โดยเฮพาะตอนเช้า ความเร็วเป็นสิ่งสำคัญมาก สำหรับคนทำงานอย่างผม การที่จะต้องรอเค้าทอนเหรียญบาทหลายๆ เหรียญนั้นไม่ใช่สิ่งที่ดีแน่ ผมจึงมักจะจ่าย ให้เค้าทอนมาเป็นจำนวนเต็ม 5 หรือ 10


แต่ในตอนกลางคืน คนมักจะรีบเร่งน้อยกว่า และมีโอกาสจ่ายค่ารถด้วยเหรียญมากกว่า เพราะเก็บเหรียญจากการจ่ายมาทั้งวัน ผมก็มักจะใช้โอกาสนั้น แตกธนบัตรเป็นเหรียญย่อยๆ เพื่อจะได้ใช้งานในวันรุ่งขึ้น


ทั้งหมดดูจะเป็นการคิดที่มากเกินไปสำหรับสิ่งเล็กๆ น้อยๆ เพียงแค่นี้ แต่ผมว่ามันทำให้ชีวิตผม และคนรอบข้าง สุข และ ไว ขึ้นนะ