05 October 2013

One shot. Part 1: Oslo

เมื่อเดือนที่แล้วได้มีโอกาสไปทำงานที่กรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์มาครับ เลยอยากจะบันทึกความทรงจำเอาไว้ซักหน่อย แล้วก็น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับบางคนที่อยากไปเที่ยวที่นั่น

Oslo town hall




ออสโลเป็นเมืองหลวงที่ถือว่าค่อนข้างเล็ก ประชากรทั้งเมืองประมาณ 5 แสนกว่าคน แต่ทั้งประเทศก็มีคนแค่ 5 ล้านเองน่ะนะ สถาปัตยกรรมก็ค่อนข้างจะเก่าและขลัง ตึกในเมืองส่วนใหญ่อายุไม่ต่ำกว่าร้อยปี อย่างออฟฟิศที่ผมทำงานก็สร้างก่อนปี 1900 โดยจะมีกฎหมายบังคับว่าจะตกแต่งด้านในยังไงก็ได้ แต่ด้านนอกต้องคงรูปลักษณ์ไว้เหมือนเดิม ซึ่งก็ช่วยให้เมืองคง theme เอาไว้ได้ดีมาก มองไปทางไหนก็จะได้กลิ่นอายของศตวรรษที่ 19 ขึ้นมาอยู่เนืองๆ

เอาล่ะ ในเมื่อมาเที่ยว เอ้ย! ทำงาน ก็จะเล่าเรื่องทั่วๆ ไปของนอร์เวย์เท่าที่รู้ซักหน่อย

นอร์เวย์เป็นประเทศในกลุ่มประเทศสแกนดิเนเวีย คือ 3 ประเทศยุโรปเหนือที่มีประวัติศาสตร์มาร่วมกัน อีกสองประเทศคือ สวีเดน และเดนมาร์ก โดยนอร์เวย์เป็นหนึ่งในประเทศที่มีค่าครองชีพแพงที่สุดในโลก รัฐเก็บภาษีมหาโหด แต่สวัสดิการก็ดีสุดๆ เช่นกัน รัฐบาลจะจ่ายเงินดูแลประชาชนเกือบทุกอย่าง ตั้งแต่ค่าเล่าเรียน ค่ารักษาพยาบาล หรือแม้แต่ตอนตกงานรัฐก็จัดที่อยู่และเงินให้ และยังถือว่าเป็นประเทศที่มีสิทธิเสรีภาพทางด้านการแสดงออกสูงมาก จนถึงระดับที่เรียกว่า "ขึ้บ่นไปซะทุกเรื่อง" (อันนี้เพื่อนคนนอร์เวย์บอกเอง)

สินค้าส่งออกหลักของนอร์เวย์ นอกจากแซลมอน (ที่จะเห็นธงนอร์เวย์ประดับอยู่ข้างรูปชิ้นซาชิมิแซลมอนทุกทีไป) ก็คงจะเป็นน้ำมันที่สร้างรายได้เข้ารัฐมหาศาล ทำให้งบประมาณประเทศของนอร์เวย์ เป็นสัดส่วนแค่ 2-3% ของรายได้ต่อปี ที่เหลือ? เก็บเข้าธนาคาร อาจจะฟังดูไม่ค่อยฉลาดเท่าไหร่แต่อย่างน้อยเงินก็ไม่หนีไปไหน และเมื่อน้ำมันถูกดูดออกมาจนหมดเงินตรงนี้ก็จะถูกนำมาใช้ไปได้อีกหลายสิบปี

สนามบิน Gardermoen

สนามบิน
ในออสโลจะมีสองสนามบิน แต่จะมีสนามบินหลักที่เดียวคือ Gardermoen Airport อยู่ห่างจากออสโลไปประมาณ 30 นาที ขนาดไม่ใหญ่มากนัก แต่ผมชอบระบบเช็กอินอัตโนมัติมาก ร่นระยะเวลาต่อคิวไปได้โข ยึ่งถ้าเทียบกับที่สุวรรณภูมิแล้วคงต้องบอกว่า "สนามบินไทยต้องพัฒนาอีกเยอะ" การเดินทางเข้าเมืองมีสองทาง คือรถไฟด่วนกับรถบัส ซึ่งราคาพอๆ กันคือ 170NOK (แพงสัส) แนะนำว่าขึ้นรถไฟจะเร็ว และสะดวกกว่ามาก

เงิน!
มาอยู่ประเทศที่ค่าครองชีพสูงแบบนี้ เงินเยอะๆ เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ อาหาร เสื้อผ้า ยา ค่าเดินทาง ที่นี่แพงหมด แต่คนที่นอร์เวย์จะไม่พกเงินสดครับ ใช้บัตรเดบิตได้แทบทุกที่ เสียบบัตร กดรหัส เสร็จ โอ้ว! มันสะดวกมากเลยล่ะซาร่าห์!!

ราคาอาหารที่นี่เรียกว่า "มหาโหด" ต้องบอกก่อนว่า ออสโล (รวมถึงนอร์เวย์ทั้งหมด) จะไม่มีร้านอาหารริมถนนแบบในไทย มีแต่ภัตตาคาร ซึ่งกินมื้อนึงก็ไม่ต่ำกว่า 300NOK (ราวๆ 1500 บาท) ฉะนั้นคนท้องถิ่นเค้าจะกินนอกบ้านกันเฉพาะโอกาสพิเศษจริงๆ เท่านั้น ส่วนใหญ่ก็จะทำอาหารกินกันที่บ้าน สำหรับพนักงานออฟฟิศ ที่ทำงานส่วนใหญ่จะมีโรงอาหารที่สามารถกินมื้อกลางวันได้ฟรี (ไม่อั้น!) ซึ่งผมก็ใช้วิธีประหยัดตัง (ถึงเค้าจะให้ pocket money มาก็เถอะ) ด้วยการยัดมื้อเที่ยงเอาเยอะๆ นี่แหละ

หมออยู่ไหน?
ที่นอร์เวย์ซื้อยาค่อนข้างลำบากมาก เพราะอะไรที่มีฤทธิ์มากกว่าพาราเซตามอลต้องใช้ใบรับรองแพทย์ และค่ารักษาพยาบาลก็แพงหูฉี่ + คิวโคตรยาวตลอดเวลา (เพราะว่ารักษาพยาบาลฟรี) เพราะฉะนั้นถ้าจะไปเที่ยวก็แน่นำให้พกยาไปเยอะๆ เอาให้เหลือๆ เพราะถ้ายาหมดนี่เป็นเรื่องแน่นอน

รถเมล์ Ruter สีแดงแรงฤทธิ์!

Ruter card ล่องเมือง

การเดินทางในออสโลสะดวกมาก มีทั้งรถไฟใต้ดิน รถเมล์ รถราง เรือ ค่าตั๋วรายเดือนก็ไม่แพง (ถ้าเทียบกับค่าครองชีพ) 630NOK ซึ่งก็ขึ้นได้หมดทุกอย่าง บัตรแตะ activate แค่ครั้งแรกครั้งเดียว แต่ต้องพกบัตรไว้ทุกครั้งที่ขึ้น ถ้ามีพนักงานมาตรวจแล้วไม่มีบัตรหรือบัตรหมดอายุก็จะโดนค่าปรับ 800 NOK (หรืออาจจะมากกว่า จำเลขไม่ได้) แต่ถ้าลืมจริงๆ ก็ซื้อตั๋วจากมือถือได้เหมือนกัน ซึ่งราคาก็จะมหาโหด (อีกแล้ว) เที่ยวละ 50NOK ราคาตั๋วดูได้ที่นี่

แท็กซี่ ไม่จำเป็นจริงๆ อย่าขึ้น ดูมิเตอร์แล้วอาจจะช็อกได้ ราคาเริ่มต้น 75NOK แต่ความน่ากลัวไม่ได้หยุดแค่ตรงนี้ เพราะแค่วิ่งไปไม่กี่กิโล มิเตอร์ก็พุ่งไปเกือบ 200NOK แล้ว ยิ่งถ้าขึ้นตอนกลางดึกนี่จะแพงขึ้นอีก 50%

อาณา-จักรยาน
การใช้จักรยานเดินทางไปไหนมาไหนก็เป็นเรื่องปกติ เลนจักรยานก็เห็นได้ทั่วไป คนปั่นเต็มไปหมด เมืองไม่ใหญ่ ปั่นข้ามไปอีกฝั่งของเมืองได้ไม่เกินครึ่งชม. รถก็น้อย อากาศก็สะอาด มันช่างเป็นเมืองที่เหมาะแก่การปั่นจริงๆ

ในออสโลมีสถานีจักรยานสำหรับเช่าปั่นกระจายอยู่ คือสามารถทำให้ปั่นไปไหนมาไหนสะดวกขึ้นมาก แค่แตะบัตร ให้เวลาปั่น 3 ชม. แล้วจะเอาไปจอดที่สถานีไหนก็ได้ สะดวกมากๆ แต่ไม่แน่ใจว่าบัตรราคาเท่าไหร่ เพราะบริษัทผมซื้อบัตรมาให้ หารายละเอียดเพิ่มเติมได้ในเว็บนี้

เริ่มยาวละ เรื่องเที่ยวเอาไว้วันพรุ่งนี้แล้วกัน